กลับมาแล้วครับ กราบขออภัยทุกท่านที่หายหน้าไปนาน (มากถึงมากที่สุด)...
รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 ตอนที่ 12
“The Anger Game – Catching Monkey เกมล่าลิง”
หนุมานทูลลานางสีดาแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ไหน ๆ
มาถึงถิ่นศัตรูแล้ว เอาให้มันสุด ๆ ไปเลยดีกว่า จะได้เก็บข้อมูลไปให้พระรามด้วย
ว่าแล้วก็กระโจนโผนแล่นไปทั่วสวนขวัญ
หักโค่นต้นไม้จนล้มระเนระนาด แน่นอนว่าจุดประสงค์คือเรียกบรรดายักษ์ออกมาลองของนั้นเอง
และพวกแรกที่มาถึงก็คือลูกกระจ๊อกยามเฝ้าสวน
ออกมายังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดก็โดนหนุมานฆ่าตายเป็นใบไม้ร่วง
พวกที่เหลือเห็นท่าไม่ดีจึงรีบไปทูลฟ้อง สหัสกุมาร...
สหัสกุมารเป็นบุตรของทศกรรฐ์กับนางสนม 1,000 ตน
ซึ่งลูกยักษ์ทั้งพันตนนี้สามารถรวมร่างกันได้ แล้วจึงเรียกว่าสหัสกุมาร
มีความสามารถแผลงศรดอกเดียวให้แตกออกเป็น 1,000 ดอกได้...
สหัสกุมารยกทัพไปที่สวนขวัญ เมื่อพบหนุมานจึงร้องบอกว่าจะจับตัวไปให้ทศกรรฐ์ลงโทษ
ว่าแล้วก็แผลงศรออกไปทีเดียวเป็นศรออกมานับพันเล่ม หนุมานเข้ารวบศรไว้ทั้งหมดแล้วหักทิ้ง
แล้วกระโดดเข้าจับสิงห์เทียมรถใส่ท่า Neck Breaker สิงห์นั้นก็คอหักถึงแก่ความตายทันที
สหัสกุมารคว้าอาวุธจ้วงแทงแต่หนุมานหลบได้ ชักตรีแทงสวน สู้กันอยู่ไม่นานสหัสกุมารก็พลาดท่าเสียทีจนวายชนม์...
บ่าวไพร่เห็นดังนั้นจึงรีบส่งข่าวไปบอกทศกรรฐ์
เมื่อทราบเรื่องทศกรรฐ์ก็เดือดแค้นเป็นอันมาก ลุกขึ้นจากแท่นแก้วกระทืบบาทตวาดก้องว่า ไอ้ลิงไพร่ไม่เจียมตัวมาหมิ่นศักดิ์ศรี เอ็งต้องตายในพริบตา ว่าแล้วก็สั่งนางกำนัลไปตามอินทรชิตผู้เป็นบุตรชายมาเดี๋ยวนี้...
พออินทรชิตมาถึงก็ก้มลงกราบคอยฟังคำบัญชา ทศกรรฐ์เห็นอินทรชิตก็กวักพระหัตถ์เรียกโอรสมานั่งใกล้ แล้วเล่าความทั้งปวงให้ฟัง เจ้าจงยกทัพไปสังหารเจ้าวานรให้สิ้นสังขาร หากจับเป็นมาได้ก็จะทำให้สาสมใจ…
อินทรชิตรับสั่งแล้วก็กราบบังคมมาจัดทัพ เคลื่อนทัพไปยังสวนขวัญ มาถึงเห็นสหัสกุมารนอนตายอยู่กับพื้นก็มีความอาลัยอย่างสุดซึ้ง เหลือบเห็นวานรก็โกรธดังศรเสียบดวงใจ…
อินทรชิตกับหนุมานเข้าต่อสู้กัน หนุมานฆ่าเหล่าไพร่พลได้โดยง่าย
อินทรชิตเห็นดังนั้นก็คิดว่าจะสู้ต่อไปก็สูญเสียไพร่พลเปล่า ๆ
จึงแผลงศรนาคบาศออกไปมัดหนุมานไว้ ฝ่ายหนุมานเมื่อศรนาคบาศกลายเป็นพญานาคมาพันกายก็ลองสะบัดกายดู
นาคบาศนั้นก็คลายออก จึงรู้ว่าหากตนสะบัดแรง ๆ นาคก็จะขาดได้โดยง่าย แต่ใจหนุมานน่ะว้อนท์อยากไปเจอทศกรรฐ์อยู่แล้วจึงแกล้งทำเป็นถูกจับ...
อินทรชิตจึงพาตัวไปให้ทศกรรฐ์ ทศกรรฐ์เห็นลูกรักจับลิงได้ดีใจนัก ตรงเข้าสวมกอดแล้วว่ามิเสียทีที่เป็นลูกพ่อ ผู้ควรสืบสุริยวงศ์พงศ์ยักษ์ของเมืองลงกาต่อไป และสั่งให้เพชฌฆาตเอาไปประหารทันที
พวกเพชฌฆาตรับโองการแล้วก็เข้ากลุ้มรุมหนุมาน แต่หนุมานไม่เป็นอะไร กลับกระชากนาคขาดแล้วฆ่ายักษ์ตายเกลื่อนกลาด เพชฌฆาตจะเอาครกยักษ์มาตำบดหนุมานแต่ก็ต้องหมดท่า...
สุดท้ายก็ต้องมาทูลขอให้ทศกรรฐ์ออกไอเดีย ทศกรรฐ์ได้ฟังดังเอาไฟมาจี้ สิบปากตวาดกึกก้องทั่วเมือง เหตุใดอ้ายลิงไพรจึงฆ่าไม่ตาย ให้เอาช้างชื่อบรรลัยจักรวาลไปฆ่าหนุมาน หนุมานก็หักคอช้างขว้างลงกับพื้นสิ้นชีวิต แต่แล้วก็แกล้งทำเป็นอ่อนแรง
บอกให้ทศกรรฐ์ฆ่าตนเสียให้ตาย อย่าให้ได้ทรมาน...
ทศกรรฐ์เสียดายฝีมือของหนุมานจึงคิดใช้คำหวานชวนเลี้ยงไว้เป็นทหาร...
"ดูก่อนเจ้าลิงไพรโทษของเอ็งถึงสิ้นชีวิต แต่กูเห็นหน้าเอ็งเข้าก็เอ็นดู คิดจะเลี้ยงเอาไว้และจะช่วยอุปถัมภ์เอ็งจะเอาหรือไม่"
หนุมานได้ฟังก็หัวเราะร่า
พูดจาหลอกด่าทศกรรฐ์ไปอีกหลายคำ ทศกรรฐ์ทั้งโกรธทั้งอาย แต่ไม่รู้จะฆ่าอย่างไร จึงขู่หนุมานว่าจะทรมานไม่ให้ตายไปทุกวัน
หนุมานก็แสร้งทำเป็นกลัว บอกว่าถ้าจะทำเยี่ยงนั้น เจ้าเผาข้าให้ตายเสียยังจะดีกว่า
ทศกรรฐ์ได้ฟังดังนั้นจึงสั่งเหล่าเบ๊ยักษ์ให้เอานุ่นสำลีชุบน้ำมันพันตัวหนุมานตลอดหางแล้วจึงจุดไฟด้วยหอกแก้วสุรกานต์ซ้ำเพื่อความไม่ประมาท...
พอไฟติดปุ๊บ หนุมานก็กระโจนเข้าไปในปราสาท ผลุบเข้าห้องนั้นผลันมาโผล่ห้องนี้ สนุกสนานราวกับเป็นนักกีฬาฟรีรันนิ่ง วิ่งจนทั่วแล้วยังไม่หนำใจ ปีนป่ายขึ้นหลังคา หักยอดมณฑป เผากรุงลงกา จนโกลาหลไปทั้งเมือง ทศกรรฐ์รู้ตัวว่าเสียทีแก่หนุมาน
เดือดแค้นเป็นหนักหนา หนุมานก็ฆ่าไม่ตาย
ส่วนไฟจากหอกแก้วสุรกานต์นั้นก็เป็นไฟที่ไม่มีวันมอด
ทหารยักษ์ทำอย่างไรก็ไม่อาจดับได้...
หลังจากตะโกนด่าหนุมานจนเหนื่อย ทศกรรฐ์หันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่งก็คว้าเอานางมณโฑและนางสีดาเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แหกปากคำรามลั่นว่า...“เผ่นโว้ย!!!”...ว่าแล้วก็ยกขบวนพาเหรดเป็นยักษ์เร่ร่อนไปอาศัยอยู่ที่เขาสัตนา ระหว่างที่รอนแรมก็สั่งให้เสนายักษ์ไปกราบทูลพระอินทร์ อัญเชิญพระวิศวกรรมลงมาบูรณกรุงลงกาขึ้นมาใหม่ เมื่อเมืองสร้างใหม่แล้วจึงยกโขยงกลับมา...
หลังจากตะโกนด่าหนุมานจนเหนื่อย ทศกรรฐ์หันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่งก็คว้าเอานางมณโฑและนางสีดาเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แหกปากคำรามลั่นว่า...“เผ่นโว้ย!!!”...ว่าแล้วก็ยกขบวนพาเหรดเป็นยักษ์เร่ร่อนไปอาศัยอยู่ที่เขาสัตนา ระหว่างที่รอนแรมก็สั่งให้เสนายักษ์ไปกราบทูลพระอินทร์ อัญเชิญพระวิศวกรรมลงมาบูรณกรุงลงกาขึ้นมาใหม่ เมื่อเมืองสร้างใหม่แล้วจึงยกโขยงกลับมา...
ฝ่ายหนุมานเมื่อเผากรุงลงกาวอดวายจนหนำใจแล้ว
ก็เหาะไปยังมหาสมุทร กระโจนลงดำผุดดำว่ายอยู่พักใหญ่
นุ่นสำลีที่ติดไฟจากหอกแก้วสุรกานต์นั้นก็หลุดไปจนหมด
แต่เหลือไฟอีกหย่อมหนึ่งที่ติดอยู่ปลายหาง แช่น้ำนานเพียงใดก็ไม่ดับ
ขึ้นจากน้ำมากลิ้งตัวคลุกดินยังไงก็ไม่มอด
หนุมานจนปัญญาจึงเหาะไปหาพระนารทฤาษีพลางร้องขอความช่วยเหลือ...
พลันเข้าพลางนอบน้อม ประนมกร
ดาบศเหนพานร นั่งใกล้
ลิงกราบกล่าวคำวอน วานดับ เพลิงนา
แล้วเล่าเหตุต้นให้ ทราบสิ้นทุกประการ
ฤๅษีสรวลเยาะล้อ ลิงพลาง
สัพยอกพานรทาง ถ่องถ้อย
เพลิงนิดติดปลายหาง ดับบ่ ได้นา
น้ำทีในบ่อน้อย จักไว้ใยหวา
หณุมานพลันคิดได้ โดยไว
หางจุ่มโอษฐอมไป อัดอั้น
ลมฆานประสาทใน นาสิก ตนเฮย
เพลิงที่ปลายหางนั้น ดังได้ดังประสงค์ฯ...
เสร็จสิ้นกระบวนการดับไฟแล้ว หนุมานก็กราบลาพระนารทฤาษี เหาะข้ามมหาสุมทรกลับไปพบกับองคตและชมพูพานที่เขาเหมติรัน จากนั้นแก๊งค์ลิงก็ล่ำลาพญานกสัมพาที ยกพลมุ่งหน้ากลับไปถวายรายงานแก่พระรามยังเขาคันธมาทน์...
ดาบศเหนพานร นั่งใกล้
ลิงกราบกล่าวคำวอน วานดับ เพลิงนา
แล้วเล่าเหตุต้นให้ ทราบสิ้นทุกประการ
ฤๅษีสรวลเยาะล้อ ลิงพลาง
สัพยอกพานรทาง ถ่องถ้อย
เพลิงนิดติดปลายหาง ดับบ่ ได้นา
น้ำทีในบ่อน้อย จักไว้ใยหวา
หณุมานพลันคิดได้ โดยไว
หางจุ่มโอษฐอมไป อัดอั้น
ลมฆานประสาทใน นาสิก ตนเฮย
เพลิงที่ปลายหางนั้น ดังได้ดังประสงค์ฯ...
เสร็จสิ้นกระบวนการดับไฟแล้ว หนุมานก็กราบลาพระนารทฤาษี เหาะข้ามมหาสุมทรกลับไปพบกับองคตและชมพูพานที่เขาเหมติรัน จากนั้นแก๊งค์ลิงก็ล่ำลาพญานกสัมพาที ยกพลมุ่งหน้ากลับไปถวายรายงานแก่พระรามยังเขาคันธมาทน์...