วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รามเกียรติ์ ช่วงที่ 2 ตอนที่ 12

กลับมาแล้วครับ กราบขออภัยทุกท่านที่หายหน้าไปนาน (มากถึงมากที่สุด)...

รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 ตอนที่ 12 The Anger Game – Catching Monkey เกมล่าลิง”

หนุมานทูลลานางสีดาแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ไหน ๆ มาถึงถิ่นศัตรูแล้ว เอาให้มันสุด ๆ ไปเลยดีกว่า จะได้เก็บข้อมูลไปให้พระรามด้วย ว่าแล้วก็กระโจนโผนแล่นไปทั่วสวนขวัญ  หักโค่นต้นไม้จนล้มระเนระนาด แน่นอนว่าจุดประสงค์คือเรียกบรรดายักษ์ออกมาลองของนั้นเอง และพวกแรกที่มาถึงก็คือลูกกระจ๊อกยามเฝ้าสวน ออกมายังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดก็โดนหนุมานฆ่าตายเป็นใบไม้ร่วง พวกที่เหลือเห็นท่าไม่ดีจึงรีบไปทูลฟ้อง สหัสกุมาร...

สหัสกุมารเป็นบุตรของทศกรรฐ์กับนางสนม 1,000 ตน ซึ่งลูกยักษ์ทั้งพันตนนี้สามารถรวมร่างกันได้ แล้วจึงเรียกว่าสหัสกุมาร มีความสามารถแผลงศรดอกเดียวให้แตกออกเป็น 1,000 ดอกได้...

สหัสกุมารยกทัพไปที่สวนขวัญ เมื่อพบหนุมานจึงร้องบอกว่าจะจับตัวไปให้ทศกรรฐ์ลงโทษ ว่าแล้วก็แผลงศรออกไปทีเดียวเป็นศรออกมานับพันเล่ม หนุมานเข้ารวบศรไว้ทั้งหมดแล้วหักทิ้ง แล้วกระโดดเข้าจับสิงห์เทียมรถใส่ท่า Neck Breaker สิงห์นั้นก็คอหักถึงแก่ความตายทันที สหัสกุมารคว้าอาวุธจ้วงแทงแต่หนุมานหลบได้ ชักตรีแทงสวน สู้กันอยู่ไม่นานสหัสกุมารก็พลาดท่าเสียทีจนวายชนม์...

บ่าวไพร่เห็นดังนั้นจึงรีบส่งข่าวไปบอกทศกรรฐ์ เมื่อทราบเรื่องทศกรรฐ์ก็เดือดแค้นเป็นอันมาก ลุกขึ้นจากแท่นแก้วกระทืบบาทตวาดก้องว่า ไอ้ลิงไพร่ไม่เจียมตัวมาหมิ่นศักดิ์ศรี เอ็งต้องตายในพริบตา ว่าแล้วก็สั่งนางกำนัลไปตามอินทรชิตผู้เป็นบุตรชายมาเดี๋ยวนี้...

พออินทรชิตมาถึงก็ก้มลงกราบคอยฟังคำบัญชา   ทศกรรฐ์เห็นอินทรชิตก็กวักพระหัตถ์เรียกโอรสมานั่งใกล้   แล้วเล่าความทั้งปวงให้ฟัง   เจ้าจงยกทัพไปสังหารเจ้าวานรให้สิ้นสังขาร   หากจับเป็นมาได้ก็จะทำให้สาสมใจ

อินทรชิตรับสั่งแล้วก็กราบบังคมมาจัดทัพ เคลื่อนทัพไปยังสวนขวัญ มาถึงเห็นสหัสกุมารนอนตายอยู่กับพื้นก็มีความอาลัยอย่างสุดซึ้ง เหลือบเห็นวานรก็โกรธดังศรเสียบดวงใจ

อินทรชิตกับหนุมานเข้าต่อสู้กัน หนุมานฆ่าเหล่าไพร่พลได้โดยง่าย อินทรชิตเห็นดังนั้นก็คิดว่าจะสู้ต่อไปก็สูญเสียไพร่พลเปล่า ๆ จึงแผลงศรนาคบาศออกไปมัดหนุมานไว้ ฝ่ายหนุมานเมื่อศรนาคบาศกลายเป็นพญานาคมาพันกายก็ลองสะบัดกายดู นาคบาศนั้นก็คลายออก จึงรู้ว่าหากตนสะบัดแรง ๆ นาคก็จะขาดได้โดยง่าย แต่ใจหนุมานน่ะว้อนท์อยากไปเจอทศกรรฐ์อยู่แล้วจึงแกล้งทำเป็นถูกจับ...


อินทรชิตจึงพาตัวไปให้ทศกรรฐ์ ทศกรรฐ์เห็นลูกรักจับลิงได้ดีใจนัก ตรงเข้าสวมกอดแล้วว่ามิเสียทีที่เป็นลูกพ่อ ผู้ควรสืบสุริยวงศ์พงศ์ยักษ์ของเมืองลงกาต่อไป และสั่งให้เพชฌฆาตเอาไปประหารทันที พวกเพชฌฆาตรับโองการแล้วก็เข้ากลุ้มรุมหนุมาน แต่หนุมานไม่เป็นอะไร กลับกระชากนาคขาดแล้วฆ่ายักษ์ตายเกลื่อนกลาด เพชฌฆาตจะเอาครกยักษ์มาตำบดหนุมานแต่ก็ต้องหมดท่า...



สุดท้ายก็ต้องมาทูลขอให้ทศกรรฐ์ออกไอเดีย ทศกรรฐ์ได้ฟังดังเอาไฟมาจี้ สิบปากตวาดกึกก้องทั่วเมือง เหตุใดอ้ายลิงไพรจึงฆ่าไม่ตาย ให้เอาช้างชื่อบรรลัยจักรวาลไปฆ่าหนุมาน หนุมานก็หักคอช้างขว้างลงกับพื้นสิ้นชีวิต แต่แล้วก็แกล้งทำเป็นอ่อนแรง บอกให้ทศกรรฐ์ฆ่าตนเสียให้ตาย อย่าให้ได้ทรมาน...



ทศกรรฐ์เสียดายฝีมือของหนุมานจึงคิดใช้คำหวานชวนเลี้ยงไว้เป็นทหาร...

"ดูก่อนเจ้าลิงไพรโทษของเอ็งถึงสิ้นชีวิต   แต่กูเห็นหน้าเอ็งเข้าก็เอ็นดู   คิดจะเลี้ยงเอาไว้และจะช่วยอุปถัมภ์เอ็งจะเอาหรือไม่"

หนุมานได้ฟังก็หัวเราะร่า พูดจาหลอกด่าทศกรรฐ์ไปอีกหลายคำ ทศกรรฐ์ทั้งโกรธทั้งอาย แต่ไม่รู้จะฆ่าอย่างไร จึงขู่หนุมานว่าจะทรมานไม่ให้ตายไปทุกวัน หนุมานก็แสร้งทำเป็นกลัว บอกว่าถ้าจะทำเยี่ยงนั้น เจ้าเผาข้าให้ตายเสียยังจะดีกว่า ทศกรรฐ์ได้ฟังดังนั้นจึงสั่งเหล่าเบ๊ยักษ์ให้เอานุ่นสำลีชุบน้ำมันพันตัวหนุมานตลอดหางแล้วจึงจุดไฟด้วยหอกแก้วสุรกานต์ซ้ำเพื่อความไม่ประมาท...



พอไฟติดปุ๊บ หนุมานก็กระโจนเข้าไปในปราสาท ผลุบเข้าห้องนั้นผลันมาโผล่ห้องนี้ สนุกสนานราวกับเป็นนักกีฬาฟรีรันนิ่ง วิ่งจนทั่วแล้วยังไม่หนำใจ ปีนป่ายขึ้นหลังคา หักยอดมณฑป เผากรุงลงกา จนโกลาหลไปทั้งเมือง ทศกรรฐ์รู้ตัวว่าเสียทีแก่หนุมาน เดือดแค้นเป็นหนักหนา หนุมานก็ฆ่าไม่ตาย ส่วนไฟจากหอกแก้วสุรกานต์นั้นก็เป็นไฟที่ไม่มีวันมอด ทหารยักษ์ทำอย่างไรก็ไม่อาจดับได้...


หลังจากตะโกนด่าหนุมานจนเหนื่อย ทศกรรฐ์หันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่งก็คว้าเอานางมณโฑและนางสีดาเข้ามาไว้ในอ้อมแขน แหกปากคำรามลั่นว่า...“เผ่นโว้ย!!!”...ว่าแล้วก็ยกขบวนพาเหรดเป็นยักษ์เร่ร่อนไปอาศัยอยู่ที่เขาสัตนา ระหว่างที่รอนแรมก็สั่งให้เสนายักษ์ไปกราบทูลพระอินทร์ อัญเชิญพระวิศวกรรมลงมาบูรณกรุงลงกาขึ้นมาใหม่ เมื่อเมืองสร้างใหม่แล้วจึงยกโขยงกลับมา...




ฝ่ายหนุมานเมื่อเผากรุงลงกาวอดวายจนหนำใจแล้ว ก็เหาะไปยังมหาสมุทร กระโจนลงดำผุดดำว่ายอยู่พักใหญ่ นุ่นสำลีที่ติดไฟจากหอกแก้วสุรกานต์นั้นก็หลุดไปจนหมด แต่เหลือไฟอีกหย่อมหนึ่งที่ติดอยู่ปลายหาง แช่น้ำนานเพียงใดก็ไม่ดับ ขึ้นจากน้ำมากลิ้งตัวคลุกดินยังไงก็ไม่มอด หนุมานจนปัญญาจึงเหาะไปหาพระนารทฤาษีพลางร้องขอความช่วยเหลือ...

พลันเข้าพลางนอบน้อม          ประนมกร
ดาบศเหนพานร                      นั่งใกล้
ลิงกราบกล่าวคำวอน              วานดับ เพลิงนา
แล้วเล่าเหตุต้นให้                   ทราบสิ้นทุกประการ

ฤๅษีสรวลเยาะล้อ                   ลิงพลาง
สัพยอกพานรทาง                   ถ่องถ้อย
เพลิงนิดติดปลายหาง             ดับบ่ ได้นา
น้ำทีในบ่อน้อย                       จักไว้ใยหวา

หณุมานพลันคิดได้                 โดยไว
หางจุ่มโอษฐอมไป                  อัดอั้น
ลมฆานประสาทใน                   นาสิก ตนเฮย
เพลิงที่ปลายหางนั้น               ดังได้ดังประสงค์ฯ...


เสร็จสิ้นกระบวนการดับไฟแล้ว หนุมานก็กราบลาพระนารทฤาษี เหาะข้ามมหาสุมทรกลับไปพบกับองคตและชมพูพานที่เขาเหมติรัน จากนั้นแก๊งค์ลิงก็ล่ำลาพญานกสัมพาที ยกพลมุ่งหน้ากลับไปถวายรายงานแก่พระรามยังเขาคันธมาทน์...

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รามเกียรติ์ ช่วงที่ 2 ตอนที่ 11

รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 ตอนที่ 11 “ The Monkey of The Ring…ถวายแหวนพะย่ะค่ะ”


ฝ่ายทศกรรฐ์ตั้งแต่ได้นางสีดามาไว้ในสวนอุทยาน ก็ไม่เป็นอันทำอะไร ไม่ว่านางอัคคีหรือนางมณโฑสาวสนมกำนัลในล้วนไม่นำพา เอะอะก็ให้แจ้งเสนาว่าจะไปอุทยาน เทียวไล้เทียวขื่อจะรับนางสีดามาเป็นอัครมเหสีให้ได้ บรรดาเสนามารก็จัดทัพใหญ่ออกไปสวนขวัญทันที...


พอมาถึงทศกรรฐ์ก็เข้าไปชิดใกล้นางสีดา ยิ้มพลางเอ่ยบอกรักหนักหนา รักสุดชีวิต ลืมผัวเก่าซะเถอะ ได้แต่ร่อนเร่อยู่ในป่า สมบัติพัสถานก็ไม่มี ไม่ควรคู่กับน้องเลย วันนั้นไปตามกวางทองเสียงร้องอื้ออึงให้ช่วยอยู่กลางป่า ป่านนี้คงถูกกวางขวิดตายแล้ว อย่าเศร้าโศกเสียใจไปเลย หันมาสนใจพี่ดีกว่า ทั้งปราสาทสมบัติพัสถาน อีกทั้งหมู่สนมกำนัลแปดหมื่นสี่พันนาง พี่พร้อมจะยกให้เจ้าเป็นเมียใหญ่เหนือใคร เห็นใจเค้าเถอะนะ...

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รามเกียรติ์ ช่วงที่ 2 แพทช์เสริม

รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 แพทช์เสริม “หนุมาน อิน วันเดอร์ แลนด์”

จริง ๆ ตอนนี้ไม่มีก็ได้ ไม่มีเนื้อหาสำคัญอะไร เพียงแต่เสียดายรูป 5555 ไหน ๆ หามาแล้วก็ทน ๆ ดูเอาหน่อยก็แล้วกันนะ...

พอหนุมานเสกคาถานิทราเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาสำรวจปราสาทหานางสีดากันแล้ว หันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่งก็เผ่นแผล็วเข้าไปยังปราสาทใกล้ ๆ กลับกลายเป็นว่าเจอพิเภกกับนางตรีชาดาไปเสียฉิบ...

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รามเกียรติ์ ช่วงที่ 2 ตอนที่ 10

รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 ตอนที่ 10 “เที่ยวเมืองลงกา...ไม่มาไม่รู้”

เมื่อข้ามมหาสมุทรมาจนถึงเกาะที่ตั้งเมืองลงกา นกยักษ์สัมพาทีก็พาบินวนสำรวจรอบ ๆ เกาะพร้อมทั้งอธิบายลักษณะพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งแนวป่าทึบ เขานิลกาลา เสร็จแล้วจึงพาทั้งสามกลับมายังเขาเหมติวันอีกครั้ง

หนุมาน องคตและชมพูพานนั่งปรึกษากันเรื่องลอบเข้าเมืองลงกา หนุมานว่าระยะทางขนาดนั้นคงพอจะเหาะข้ามได้ องคตก็บอกว่าข้าคงข้ามไม่ได้ คงจะตกก่อนถึงฝั่งอยู่เยอะเหมือนกัน ส่วนชมพูพานส่ายหัวดิก บอกว่าข้าจะข้ามไปได้สักครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ ขนาดสามวานรเอกยังไม่ค่อยจะไหว นับประสาอะไรกับเหล่าลิงน้อยลูกกระจ๊อก หนุมานจึงอาสาไปแต่เพียงคนเดียว ส่วนองคตกับชมพูพานให้อยู่ควบคุมกองพลอยู่ทางฝั่งนี้ พร้อมระวังเป็นกองสนับสนุนตอนขากลับหากถูกศัตรูตามมา ว่าแล้วหนุมานก็เตรียมตัวยืดเส้นยืดสายก่อนพุ่งทะยานเหาะข้ามมหาสมุทรไปยังเกาะเมืองลงกา...

ในขณะที่กำลังจะถึงฝั่งมองเห็นอยู่ลิบ ๆ นั้นเอง ก็เกิดเหตุทะเลปั่นป่วนเป็นฟองคลื่นขาวไปหมด สัตว์น้ำทั้งเล็กใหญ่ทั้งสัตว์ปกติและสัตว์ร้ายต่างพุ่งแหวกว่ายกระจัดกระเจิงไปคนละทิศละทาง น้ำทะเลหนุนสูงขึ้นเหมือนภูเขา แล้วก็พลันปรากฏยักษิณีตัวใหญ่น่ากลัวตนหนึ่งขวางทางหนุมานไว้...

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รามเกียรติ์ ช่วงที่ 2 ตอนที่ 9

รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 ตอนที่ 9 “รัก...ออกแบบไม่ได้”

พอตื่นมาหนุมานกับชมพูพานก็ตกใจ ถามองคตว่าหน้าแกไปโดนอะไรมา ก่อนนอนเมื่อคืนไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่หว่า องคตก็เลยเล่าให้ฟังเรื่องยักษ์ปักหลั่น หนุมานกับชมพูพานก็ต่อว่า ทำไมมีเรื่องหนุก ๆ ไม่ชวนกันมั่ง เจอแบบนี้องคตก็เซ็งล่ะครับ...

จัดการธุระส่วนตัวกันเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ มาเจอป่าอีกแห่งหนึ่ง มีเมืองอยู่ในป่าด้วย แต่ไม่มีคน หนุมานเห็นแล้วก็อยากรู้อยากเห็นตามประสา แต่ก็ไม่วายสั่งให้พรรคพวกรออยู่ข้างนอกก่อนเพื่อความปลอดภัย ว่าแล้วก็ย่องเข้าไปสำรวจด้วยตัวคนเดียวด้วยความระแวดระวังเต็มที่ นี่จะเป็นแผนของพวกยักษ์หรือเปล่า? จะมีผีมั๊ย? ซอมบี้ล่ะ? และแล้วหนุมานก็ได้เห็น...

นางฟ้าหน้าตาดีองค์หนึ่ง 555 หนุมานเห็นปั๊บก็แบบว่ารักเลยอะ แต่จะแสดงออกมากเดี๋ยวจะเสียฟอร์มทหารเอก เลยเข้าไปทำทีสอบถามอะไรยังไงกัน นางอัปสรนั้นจึงบอกว่าตนชื่อบุษมาลี เป็นอัปสรสวรรค์คอยถวายรับใช้แก่พระอินทร์ เมืองนี้ชื่อเมืองมายัน เจ้าเมืองคือท้าวตาวัน เมื่อครั้งที่ท้าวตายันเข้าเฝ้าพระอินทร์เกิดหลงรักนางอัปสรอีกองค์หนึ่ง หลังจากนั้นเมื่อท่านท้าวมาเข้าเฝ้าพระอินทร์ครั้งใดก็มารบเร้าให้นางบุษมาลีเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ทุกครั้งไป ครั้นความทราบถึงพระอินทร์ก็ทรงพิโรธจัด จึงสาปให้ท้าวตาวันตลอดจนชาวเมืองมายันหายไปจนหมดสิ้น รวมทั้งสาปให้นางบุษมาลีต้องลงมาเฝ้าเมืองร้างแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลาถึงสามหมื่นปี จะกลับขึ้นสู่สวรรค์ได้อีกทีเมื่อมีทหารเอกขององค์นารายณ์ที่ชื่อหนุมานมาอุ้มโยนขึ้นท้องฟ้าเท่านั้น...