วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รามเกียรติ์ ช่วงที่ 2 ตอนที่ 5

รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 ตอนที่ 5 “ยักษ์ สอง สาม ตน”

ณ กรุงลงกา ทศกรรฐ์ครองเมืองอย่างมีความสุข อยู่มาวันหนึ่งจึงกำหนดจะไปฮันนีมูนเที่ยวป่ากับนาง
มณโฑมเหสีเป็นเวลา 7วัน 7คืน ก็เลยแต่งตั้ง ชิวหา ที่มีศักดิ์เป็นน้องเขยให้เป็นผู้รักษาเมือง ชิวหาจัดเวรยามรักษาการณ์ทั้งวันทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน จนถึงวันที่ 7 ชิวหาทนง่วงไม่ไหว รู้สึกอิดโรยและใคร่จะพักผ่อน แต่เกรงว่าศัตรูจะเข้ามารบกวน จึงนิมิตกายสูงใหญ่ และแลบลิ้นปิดคลุมเมืองเอาไว้แล้วหลับไป...


เมื่อทศกรรฐ์กลับมาเห็นแต่ความมืดมองไม่เห็นเมือง ตะโกนเรียกชิวหาอย่างไรก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ คิดว่าชิวหาถูกฆ่าตาย และข้าศึกยกทัพมาล้อมเมืองไว้ จึงขว้างจักรสุรกานต์ออกไปตัดลิ้นชิวหาขาดกระเด็นจากร่าง ชิวหาถึงแก่ความตายทันที นางสำมนักขาทราบว่าผัวถูกจักรของพี่ชายตายก็ตกใจตัวสั่นตีอกชกหัววุ่นวาย วิ่งมากอดบาทสามีคร่ำครวญร่ำไห้ ไม่เป็นสมประดี เมื่อฟื้นขึ้นก็เข้าไปต่อว่าทศกัณฐ์เสียยกใหญ่...


นางสำมนักขาเป็นม่าย มีแต่ความเศร้าโศกาอาดูร จึงออกเดินท่องป่าไปจนได้พบพระรามแล้วเกิดหลงรัก จึงเข้าไปถวายตับ เอ๊ย! ถวายตัว แต่พระรามปฏิเสธเพราะมีนางสีดาอยู่แล้ว นางสำมนักขาโกรธมากจึงเข้าตบตีนางสีดา พระลักษณ์จึงสวมบทชายชุดดำจับนางมาทำโทษด้วยการตัดหู ตัดจมูก ตัดมือ ตัดเท้า แล้วปล่อยตัวไป...

ภายหลังที่นางสำมนักขาถูกพระลักษณ์ทำโทษอย่างรุนแรง นางจึงรีบไปเฝ้าพี่ชาย คือ พระยาขร ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จว่า นางไปเดินเที่ยวพักผ่อนที่แม่น้ำโคทาวารี พบมนุษย์ชาย 2 คน หญิง 1 คน บวชเป็นดาบสอยู่ในป่า ฤาษีชายสองคนเห็นตนเป็นหญิงจึงเข้ามาหยอกเย้าลวนลามแต่นางไม่ยอมจึงช่วยกันทำร้ายนาง...


พระยาขรได้ฟังดังนั้นจึงจัดทัพออกมารบกับพระรามแต่ก็ถูกพระรามแผลงศรพรหมมาศตายไป...


พวกยักษ์ที่เหลือตายก็ไปทูลพระยาทูต ว่าพระยาขรผู้เป็นพี่ถูกมนุษย์ซึ่งบวชเป็นฤาษีฆ่าตาย พระยาทูตจึงจัดทัพไปออกรบกับพระราม แต่ในที่สุดพระรามก็แผลงศรพรหมาศไปฆ่าพระยาทูตจนสิ้นชีวิต ฝ่ายยักษ์ที่เหลือตายก็รีบไปบอกตรีเศียร ตรีเศียรก็รีบจัดทัพออกไปรบกับพระราม สุดท้ายพระรามก็ฆ่าตรีเศียรตายไปอีกตนกลายเป็นทริปเปิ้ลคิลล์แฮตทริกฮีโร่ไปโดยปริยาย...


ฝ่ายนางสำมนักขาเห็นพี่ชาย 3 คนคือพญาขร พญาทูต และตรีเศียรถูกพระรามฆ่าตายภายในระยะเวลาอันสั้น ก็รู้สึกกลัวพระราม พระลักษณ์ จึงรีบหนีออกจากเมืองโรมคัลกลับไปยังเกาะลงกา...

ครั้นมาถึงจึงกอดพระบาททศกรรฐ์พี่ชายไว้ แสร้งร่ำไห้สะอึกสะอื้นแทบขาดใจ ทศกรรฐ์เห็นน้องเป็นเช่นนั้นก็โกรธเกรี้ยวเป็นเซนต์แองเกอร์ ถามนางสำมนักขาว่า เหตุใดนางจึงเป็นเช่นนี้ นางสำมนักขาก็ทูลด้วยมารยาว่า เมื่อตนไปเที่ยวป่าพบพระรามพระลักษณ์และนางสีดาบวชอยู่ที่ริมฝั่งโคทาวารี อันนางสีดานั้นทรงโฉมยิ่งกว่าเทพอัปสร ตนอยากจะได้มาถวายเจ้าพี่ จึงได้ลอบอุ้มนางสีดามา พระลักษณ์ตามมาทันชิงนางสีดาได้ แล้วทำโทษนางจนเสียเกือบสิ้นชีวิต ตนไปบอกสามเจ้าพี่ให้ช่วยเหลือก็พลาดท่าจนหมดสิ้น ขอเชิญทศกรรฐ์ไปเชิญเอานางสีดามาเป็นมเหสีเถิด...


ทศกรรฐ์ได้ฟังน้องเล่าดังนั้น ไฟราคะก็แผ่ซ่าน ความโกรธที่จะฆ่าก็หายไปหมดสิ้น เหลือแต่ความอยากได้นางสีดา มือไม้สั่นจนอาวุธที่ถืออยู่ในมือเกือบร่วงลงหมด พอได้สติก็ถามนางสำมนักขาว่า นางสีดาที่ว่างามล้ำกว่านางฟ้าสรวงสวรรค์นั้นเทียบกับนางมณโฑจะละม้ายคล้ายกันประการใด...

นางสำมนักขาทูลว่า ถ้าจะเปรียบกับพี่มณโฑนั้นห่างไกลกันสักพันเท่า ทศกรรฐ์ได้ฟังน้องว่าดังนั้นยิ่งมีความพิศวาสจะขาดใจ ราคะร้อนใจหลงใหลจึงถามไปอีกว่า ที่ว่าสวยกว่านางมณโฑถ้าจะเปรียบกับพระอุมา พระลักษมี พระสุรัสวดี ใครจะสวยกว่ากัน นางสำมนักขาทูลว่า ทั้งสามองค์รวมกันยังไม่เท่านางสีดา...

ทศกรรฐ์ยิ่งฟังก็ยิ่งงุ่นง่านฟั่นเฟือน เข้าห้องมาเห็นนางมณโฑคอยอยู่งานจึงตรัสแก่นางมณโฑว่า นางสำมนักขาเล่าให้ฟังถึงพระรามพระลักษณ์มีความแค้นตนหนักหนา ตัดจมูก ตัดปาก บั่นแขนบั่นขานางสำมนักขา หนำซ้ำยังฆ่าทูต ขร ตรีเศียรตายหมด หากจะไปรบราฆ่าฟัน ทั้งสามโลกจะนินทาเอาได้ว่าฆ่ามนุษย์ตัวเท่าแมลงวัน แต่จะนิ่งเสียก็อับอายชาวเทวาสุราลัย ดังนั้นแผนของข้าก็คือ “ไปขโมยเมียมันมาดีกว่า” เมียจ๋าจะว่าไง...

นางมณโฑมนุษย์เมียได้ฟังก็กล่าวว่า น้องขุ่นซะมีโดนกำราบไปทั้งสามตนนั้นนับว่าเป็นเหตุไม่ธรรมดา ทั้งสามตนนั้นอาจจะเป็นฝ่ายก่อเหตุเองเสียก็ได้ และการลักเมียเขานั้นก็ผิดประเพณี ใครรู้เข้าก็จะเยาะเย้ยเอา อย่าทำเลยนะแคระ...

ทศกรรฐ์ได้ฟังจึงตอบไปว่า ที่นางมณโฑว่ามานั้นก็เห็นด้วย แต่กลศึกนั้นจะต้องใช้อุบายล้ำลึกจึงจะชนะ ถ้าแค่ลักเมียมันมาแล้วข้าศึกตายจะต้องไปรบให้เสียไพร่พลกันทำไม หากใช้อุบายลึกซึ้งอย่างนี้ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างปะไรเล่า...

นางมณโฑบอกให้ทศกรรฐ์ตรึกตรองให้ดี รู้ว่าอยากมีเมียเพิ่ม แต่พระรามพระลักษณ์เป็นหลานท้าวอัชบาลเผ่าพงศ์พระนารายณ์ ระวังจะเสียที...



ทศกรรฐ์ได้ยินเมียพูดขัดก็งอนไม่พูดด้วย มองไปเห็นแต่รูปนางสีดาลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ครั้นค่ำก็เข้าที่บรรทม...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น