รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 ตอนที่ 2
“4 กุมาร หาญกล้า...”
ส่วนที่กรุงศรีอยุธยา พระโอรสทั้ง 4 ของท้าวทศรถเมื่อเจริญวัย ก็ฝึกหัดยิงธนูกันจนแม่นยำ
วันหนึ่งนางกุจจีนางหลังค่อม เป็นข้ารับใช้นางไกยเกษีเดินผ่านมา พระรามก็ทดลองฝีมือยิงธนูโดนหลังค่อมให้โก่งไปข้างหน้าชั่วพริบตา
แล้วกลับค่อมดังเดิมในเวลาดุจสายฟ้าแลบโดยนางไม่ทันรู้ตัวจึงเป็นที่เฮฮากัน
เมื่อนางค่อมรู้ตัวก็นึกอายนัก จึงคิดอาฆาตพระรามไว้ตั้งแต่นั้น...
ต่อมาท้าวทศรถให้โอรสทั้ง 4 ไปศึกษาพระเวทกับฤาษีสององค์ชื่อ ฤาษีวสิษฐ์และฤาษีสวามิตร จนเรียนศิลปศาสตร์ได้อย่างชำนาญ
และเห็นว่าจากนี้เหล่ายักษ์จะต้องตายด้วยศรพระราม แต่พระรามไม่มีศรประจำตัว
จึงตั้งพิธีขอศร พระอิศวรได้ประทานธนูชื่อว่าพระพิชัยโมลีและศรให้องค์ละสามเล่ม
แต่ละเล่มมีฤทธิ์ต่างกัน ศรของพระรามมีชื่อว่า ศรพรหมมาสตร์
ศรอัคนิวาต และศรพลายวาต เมื่อกลับเข้ากรุงศรีอยุธยา
จึงลองศรให้ท้าวทศรถชมเป็นที่ชื่นชมโสมนัส...
ทางด้านท้าวไกยเกษ เห็นว่าตนนั้นชรามากแล้ว
จึงไปขอลูกของพระนางไกยเกษีมาเลี้ยงดู
หากในวันข้างหน้ามีศัตรูมารุกรานจะได้เป็นกำลังต่อสู้ได้ ท้าวทศรถกับนางไกยเกษีก็ส่งพระพรตมาให้
และเพื่อที่พระพรตจะได้ไม่เหงา จึงได้ให้พระสัตรุตไปด้วยกัน...
นับตั้งแต่ทศกรรฐ์ถอดดวงใจแล้วก็มีความกำเริบมากขึ้น
วันหนึ่งคิดว่าเวลานี้พวกฤๅษีชีไพรบังอาจทำพิธีชุบศรบ้าง ทำอาวุธอย่างอื่นบ้าง ซ้ำเหาะเหินเดินอากาศได้ นานไปมีศิษย์มากขึ้นจะก่อความวุ่นวายให้เกิดแก่ยักษ์ จำจะต้องใช้นางกากนาสูรไปทำลายบรรณศาลาโรงพิธี ไล่จิกตีฤๅษีชีไพรให้ราบ...
นางกากนาสูรรับสั่งแล้วก็มาเรียกบริวาร แล้วแปลงกายเป็นกาตัวใหญ่หัวเป็นยักษ์บินไปจิกบรรณศาลาพังทลายไปเป็นชิ้นดี เสร็จแล้วก็พากันกลับ ตั้งใจว่าอีก 7 วันจะกลับมาอีกครั้ง...
พระฤๅษีจึงไปบอกฤาษีวสิษฐ์และฤาษีสวามิตร เมื่อได้ทราบสองพระฤๅษีก็เข้าไปทูลให้ท้าวทศรถทราบอีกทีหนึ่ง ท้าวทศรถเห็นว่าลูกทั้งสองคือพระรามและพระลักษณ์จะปราบอีการ้ายได้ ก็อนุญาตให้ไป...
ครั้นครบเจ็ดวัน
พวกกาอันธพาลก็มารังควานพระฤาษีอีก จึงถูกพระรามและพระลักษณ์
แผลงศรเกิดเป็นไฟเผาพวกการ้ายตายไปมากมาย นางกากนาสูรก็ถูกศรพระรามปักอกตาย...
บรรดาพวกบริวารที่รอดตายนำความไปแจ้งให้สวาหุและมารีศซึ่งเป็นลูกของนางกากนาสูร พระยาสวาหุและมารีศจึงมาต่อสู้กับพระรามและพระลักษณ์ ผลปรากฏว่า สวาหุถูกพระรามแผลงศรตายเหมือนแม่ไม่ผิดเพี้ยน
ส่วนมารีศหนีไปกรุงลงกา...
ย้อนกลับมาที่เมืองมิถิลา ท้าวชนกกับมเหสีชื่อนางรัตนมณีเห็นว่านางสีดามีอายุสมควรจะมีคู่ครองได้
จึงตั้งพิธียกมหาธนูโมลี ซึ่งเป็นศรที่พระอิศวรใช้ฆ่าตรีบุรัมตาย(เรื่องนี้อยู่ในช่วงแรกตอนที่
4 “ทฤษฎีสมคบคิด”) ซึ่งหากผู้ใดยกได้ก็จะจัดให้มีพิธีอภิเษกสมรสกับนางสีดา
ให้เป็นคู่ครองกันสืบต่อไป ครั้นแล้วท้าวชนกจึงป่าวประกาศ เชิญหน่อกษัตริย์ต่าง ๆ มาร่วมพิธียกศร
โดยพระอินทร์ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธาน...
งานนี้มีเหล่ากษัตริย์จากเมืองต่าง ๆ มากันมากมาย
ฤาษีวิสิษฐ์และฤาษีสวามิตร จึงพาพระรามและพระลักษณ์
พระรามได้เห็นนางสีดาทางช่องประตูแก้วด้านหนึ่งก็ทรงหลงรักนาง
ส่วนนางสีดาเองก็มีใจภักดีพระรามด้วยเช่นกัน...
เมื่อถึงเวลากำหนดจะทำพิธียกพระมหาธนูโมลี ท้าวชนกก็โปรดลั่นฆ้องชัย
ฝ่ายหน่อกษัตริย์ทั้งหลายก็ลุกขึ้นทันทีพร้อมหน้า เบียดเสียดยัดเยียดเข้ามา
ฉุดคร่าวัดเหวี่ยงเกี่ยงกัน แต่ในที่สุดก็ไม่มีผู้ใดสามารถยกพระมหาธนูโมลีให้เคลื่อนที่ได้ แต่เมื่อพระลักษณ์ลองยกดูปรากฎว่าธนูนั้นเขยื้อนเล็กน้อย พระลักษณ์ก็ทราบได้ทันทีว่าหากตนเองจะยกก็คงยกได้ แต่ก็รู้ดีว่านางสีดามีใจให้แก่พระรามจึงแสร้งทำเป็นยกธนูโมลีนั้นไม่ได้
เมื่อพระรามออกไปยกพระมหาธนูโมลีด้วยตนเอง ก็สามารถยกขึ้นได้โดยง่าย
แล้วทรงกวัดแกว่งสำแดงฤทธิ์ของพระมหาธนูโมลี พระรามจึงเป็นผู้ชนะในพิธียกศร...
จากนั้นท้าวชนกให้อาลักษณ์เขียนสารถึงท้าวทศรถ
ท้าวทศรถเมื่อได้รับสารจากท้าวชนกแล้ว ก็แจ้งไปยังพระพรต และพระสัตรุต
เพื่อให้เดินทางเข้ามายังเมืองอยุธยาและแล้วจะได้ไปร่วมพิธีอภิเษกสมรสพระรามกับนางสีดาพร้อมกัน...
หลังจากเสร็จพิธีอุปภิเษกพระรามกับนางสีดาในเมืองมิถิลา
ท้าวทศรถกับคณะพร้อมด้วย พระราม นางสีดา และพระลักษณ์ ก็ลาท้าวชนกยกทัพกลับอยุธยา ระหว่างเดินทางกลับก็มีลาง
คือ นกกระเต็นบินมาจิกธงชัยและบินผ่านด้านขวาเข้าป่าไป โหรได้ทำนายว่า
จะเกิดการสู้รบกับใครคนหนึ่งตามทางแต่จะชนะศัตรู...
ฝ่ายรามสูรตั้งแต่จับพระอรชุนฟาดกับเขาพระสุเมรุ
สิ้นชีวิตแล้ว ก็ออกเที่ยวข่มเหงผู้อื่นไปเรื่อย ๆ จนมาพบกับคณะของท้าวทศรถเนื่องจากรามสูรมานอนขวางทาง
เมื่อทราบว่าเป็นท้าวทศรถ ผู้มีความเก่งกาจเป็นอย่างมาก ก็ต้องการจะลองฝีมือ
แต่ท้าวทศรถกล่าวว่าตนแก่ชรา ฝีมือไม่เท่าเมื่อกาลก่อน พระรามจึงอาสาออกสู้กับรามสูรเอง...
ในขั้นต้นรามสูรแกว่งขวานสำแดงฤทธิ์
ทำให้เกิดควันปิดดวงอาทิตย์ และมองไม่เห็นตัวรามสูร
พระรามจึงแผลงศรรามจันทร์ออกไปทำให้เกิดแสงสว่างและแลเห็นตัวรามสูร
ครั้นแล้วรามสูรก็แผลงศรของตนไปยังพระรามแต่ศรนั้นไม่เข้าประชิดตัวพระราม
พระรามจึงแผลงศรอัคนิวาตออกไป กลายเป็นจักรแก้ว ทำลายศรของรามสูร...
สุดท้ายรามสูรจึงเอาขวานของตนขว้างออกไปเพื่อไล่ศรอัคนิวาต
พระรามเห็นดังนั้น จึงแผลงศรพลายวาทออกไปทำลายล้างขวานรามสูร
ในที่สุดพระรามก็ใช้ศรตีถูกรามสูรอย่างเจ็บช้ำ จนรามสูรมองเห็นพระรามเป็นพระนารายณ์
มีสี่มือ ถือสังข์ จักร และคฑาเพชร จึงกราบบาททูลขอโทษและถวายศรที่พระอิศวรได้เคยมอบให้ตรีเมษปู่ของตน
แล้วเหาะกลับไปยังที่อยู่ ซึ่งพระรามได้ทำพิธีฝากศรนี้ไว้กับพระพิรุณเทวา
ต่อจากนั้นจึงเดินทางกลับถึงกรุงอยุธยา...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น