วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รามเกียรติ์ ช่วงที่ 2 ตอนที่ 2

รามเกียรติ์ฉบับย่อจังหวะนรก ช่วงที่ 2 ตอนที่ 2 “4 กุมาร หาญกล้า...”

ส่วนที่กรุงศรีอยุธยา พระโอรสทั้ง 4 ของท้าวทศรถเมื่อเจริญวัย ก็ฝึกหัดยิงธนูกันจนแม่นยำ วันหนึ่งนางกุจจีนางหลังค่อม เป็นข้ารับใช้นางไกยเกษีเดินผ่านมา พระรามก็ทดลองฝีมือยิงธนูโดนหลังค่อมให้โก่งไปข้างหน้าชั่วพริบตา แล้วกลับค่อมดังเดิมในเวลาดุจสายฟ้าแลบโดยนางไม่ทันรู้ตัวจึงเป็นที่เฮฮากัน เมื่อนางค่อมรู้ตัวก็นึกอายนัก จึงคิดอาฆาตพระรามไว้ตั้งแต่นั้น...


ต่อมาท้าวทศรถให้โอรสทั้ง 4 ไปศึกษาพระเวทกับฤาษีสององค์ชื่อ ฤาษีวสิษฐ์และฤาษีสวามิตร จนเรียนศิลปศาสตร์ได้อย่างชำนาญ และเห็นว่าจากนี้เหล่ายักษ์จะต้องตายด้วยศรพระราม แต่พระรามไม่มีศรประจำตัว จึงตั้งพิธีขอศร พระอิศวรได้ประทานธนูชื่อว่าพระพิชัยโมลีและศรให้องค์ละสามเล่ม แต่ละเล่มมีฤทธิ์ต่างกัน ศรของพระรามมีชื่อว่า ศรพรหมมาสตร์ ศรอัคนิวาต และศรพลายวาต  เมื่อกลับเข้ากรุงศรีอยุธยา จึงลองศรให้ท้าวทศรถชมเป็นที่ชื่นชมโสมนัส...


ทางด้านท้าวไกยเกษ เห็นว่าตนนั้นชรามากแล้ว จึงไปขอลูกของพระนางไกยเกษีมาเลี้ยงดู หากในวันข้างหน้ามีศัตรูมารุกรานจะได้เป็นกำลังต่อสู้ได้ ท้าวทศรถกับนางไกยเกษีก็ส่งพระพรตมาให้ และเพื่อที่พระพรตจะได้ไม่เหงา จึงได้ให้พระสัตรุตไปด้วยกัน...

นับตั้งแต่ทศกรรฐ์ถอดดวงใจแล้วก็มีความกำเริบมากขึ้น วันหนึ่งคิดว่าเวลานี้พวกฤๅษีชีไพรบังอาจทำพิธีชุบศรบ้าง ทำอาวุธอย่างอื่นบ้าง ซ้ำเหาะเหินเดินอากาศได้ นานไปมีศิษย์มากขึ้นจะก่อความวุ่นวายให้เกิดแก่ยักษ์ จำจะต้องใช้นางกากนาสูรไปทำลายบรรณศาลาโรงพิธี ไล่จิกตีฤๅษีชีไพรให้ราบ...

นางกากนาสูรรับสั่งแล้วก็มาเรียกบริวาร   แล้วแปลงกายเป็นกาตัวใหญ่หัวเป็นยักษ์บินไปจิกบรรณศาลาพังทลายไปเป็นชิ้นดี เสร็จแล้วก็พากันกลับ ตั้งใจว่าอีก 7 วันจะกลับมาอีกครั้ง...

พระฤๅษีจึงไปบอกฤาษีวสิษฐ์และฤาษีสวามิตร เมื่อได้ทราบสองพระฤๅษีก็เข้าไปทูลให้ท้าวทศรถทราบอีกทีหนึ่ง ท้าวทศรถเห็นว่าลูกทั้งสองคือพระรามและพระลักษณ์จะปราบอีการ้ายได้ ก็อนุญาตให้ไป...

ครั้นครบเจ็ดวัน พวกกาอันธพาลก็มารังควานพระฤาษีอีก จึงถูกพระรามและพระลักษณ์ แผลงศรเกิดเป็นไฟเผาพวกการ้ายตายไปมากมาย นางกากนาสูรก็ถูกศรพระรามปักอกตาย...


บรรดาพวกบริวารที่รอดตายนำความไปแจ้งให้สวาหุและมารีศซึ่งเป็นลูกของนางกากนาสูร พระยาสวาหุและมารีศจึงมาต่อสู้กับพระรามและพระลักษณ์ ผลปรากฏว่า สวาหุถูกพระรามแผลงศรตายเหมือนแม่ไม่ผิดเพี้ยน ส่วนมารีศหนีไปกรุงลงกา...


ย้อนกลับมาที่เมืองมิถิลา ท้าวชนกกับมเหสีชื่อนางรัตนมณีเห็นว่านางสีดามีอายุสมควรจะมีคู่ครองได้ จึงตั้งพิธียกมหาธนูโมลี ซึ่งเป็นศรที่พระอิศวรใช้ฆ่าตรีบุรัมตาย(เรื่องนี้อยู่ในช่วงแรกตอนที่ 4 “ทฤษฎีสมคบคิด”) ซึ่งหากผู้ใดยกได้ก็จะจัดให้มีพิธีอภิเษกสมรสกับนางสีดา ให้เป็นคู่ครองกันสืบต่อไป ครั้นแล้วท้าวชนกจึงป่าวประกาศ เชิญหน่อกษัตริย์ต่าง ๆ มาร่วมพิธียกศร โดยพระอินทร์ได้เสด็จมาเป็นองค์ประธาน...

งานนี้มีเหล่ากษัตริย์จากเมืองต่าง ๆ มากันมากมาย ฤาษีวิสิษฐ์และฤาษีสวามิตร จึงพาพระรามและพระลักษณ์ พระรามได้เห็นนางสีดาทางช่องประตูแก้วด้านหนึ่งก็ทรงหลงรักนาง ส่วนนางสีดาเองก็มีใจภักดีพระรามด้วยเช่นกัน...

เมื่อถึงเวลากำหนดจะทำพิธียกพระมหาธนูโมลี ท้าวชนกก็โปรดลั่นฆ้องชัย ฝ่ายหน่อกษัตริย์ทั้งหลายก็ลุกขึ้นทันทีพร้อมหน้า เบียดเสียดยัดเยียดเข้ามา ฉุดคร่าวัดเหวี่ยงเกี่ยงกัน แต่ในที่สุดก็ไม่มีผู้ใดสามารถยกพระมหาธนูโมลีให้เคลื่อนที่ได้ แต่เมื่อพระลักษณ์ลองยกดูปรากฎว่าธนูนั้นเขยื้อนเล็กน้อย พระลักษณ์ก็ทราบได้ทันทีว่าหากตนเองจะยกก็คงยกได้ แต่ก็รู้ดีว่านางสีดามีใจให้แก่พระรามจึงแสร้งทำเป็นยกธนูโมลีนั้นไม่ได้ เมื่อพระรามออกไปยกพระมหาธนูโมลีด้วยตนเอง ก็สามารถยกขึ้นได้โดยง่าย แล้วทรงกวัดแกว่งสำแดงฤทธิ์ของพระมหาธนูโมลี พระรามจึงเป็นผู้ชนะในพิธียกศร...


จากนั้นท้าวชนกให้อาลักษณ์เขียนสารถึงท้าวทศรถ ท้าวทศรถเมื่อได้รับสารจากท้าวชนกแล้ว ก็แจ้งไปยังพระพรต และพระสัตรุต เพื่อให้เดินทางเข้ามายังเมืองอยุธยาและแล้วจะได้ไปร่วมพิธีอภิเษกสมรสพระรามกับนางสีดาพร้อมกัน...


หลังจากเสร็จพิธีอุปภิเษกพระรามกับนางสีดาในเมืองมิถิลา ท้าวทศรถกับคณะพร้อมด้วย พระราม นางสีดา และพระลักษณ์ ก็ลาท้าวชนกยกทัพกลับอยุธยา ระหว่างเดินทางกลับก็มีลาง คือ นกกระเต็นบินมาจิกธงชัยและบินผ่านด้านขวาเข้าป่าไป โหรได้ทำนายว่า จะเกิดการสู้รบกับใครคนหนึ่งตามทางแต่จะชนะศัตรู...

ฝ่ายรามสูรตั้งแต่จับพระอรชุนฟาดกับเขาพระสุเมรุ สิ้นชีวิตแล้ว ก็ออกเที่ยวข่มเหงผู้อื่นไปเรื่อย ๆ จนมาพบกับคณะของท้าวทศรถเนื่องจากรามสูรมานอนขวางทาง เมื่อทราบว่าเป็นท้าวทศรถ ผู้มีความเก่งกาจเป็นอย่างมาก ก็ต้องการจะลองฝีมือ แต่ท้าวทศรถกล่าวว่าตนแก่ชรา ฝีมือไม่เท่าเมื่อกาลก่อน พระรามจึงอาสาออกสู้กับรามสูรเอง...


ในขั้นต้นรามสูรแกว่งขวานสำแดงฤทธิ์ ทำให้เกิดควันปิดดวงอาทิตย์ และมองไม่เห็นตัวรามสูร พระรามจึงแผลงศรรามจันทร์ออกไปทำให้เกิดแสงสว่างและแลเห็นตัวรามสูร ครั้นแล้วรามสูรก็แผลงศรของตนไปยังพระรามแต่ศรนั้นไม่เข้าประชิดตัวพระราม พระรามจึงแผลงศรอัคนิวาตออกไป กลายเป็นจักรแก้ว ทำลายศรของรามสูร...

สุดท้ายรามสูรจึงเอาขวานของตนขว้างออกไปเพื่อไล่ศรอัคนิวาต พระรามเห็นดังนั้น จึงแผลงศรพลายวาทออกไปทำลายล้างขวานรามสูร ในที่สุดพระรามก็ใช้ศรตีถูกรามสูรอย่างเจ็บช้ำ จนรามสูรมองเห็นพระรามเป็นพระนารายณ์ มีสี่มือ ถือสังข์ จักร และคฑาเพชร จึงกราบบาททูลขอโทษและถวายศรที่พระอิศวรได้เคยมอบให้ตรีเมษปู่ของตน แล้วเหาะกลับไปยังที่อยู่ ซึ่งพระรามได้ทำพิธีฝากศรนี้ไว้กับพระพิรุณเทวา ต่อจากนั้นจึงเดินทางกลับถึงกรุงอยุธยา...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น